banner

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไปดูสวนยางและมีดมาเลย์ที่เบตง (ตอน 1)



เมืองเบตงยามเช้า
กลางวัน
เบตงกลางคืน ดูแบบนี้ไม่มีอะไรแปลกแต่ลองติดตาม
จะมีของแปลกตอนกลางคืนที่เบตงให้ชมกัน
อุโมงค์กลางเมือง
        เมื่อเดือนที่แล้วได้มีโอกาสเดินทางไป อ.ธารโต จ.ยะลา เนื่อง
จากมีลูกค้าที่นั่นได้สั่งมีดกรีดยางของผมไปใช้และมีข้อสงสัยหลายๆ
 อย่างเกี่ยวกับมีดและเหล็กที่ใช้ทำมีด ซึ่งบางส่วนของมีดแตกต่างจา
มีดที่ทำขายในเบตง พอดีกับเป็นช่วงฝนตกต่อเนื่องกันหลายวันและ
ราคายางตกรูดเหลือโลละ 50 กว่าบาท จึงถือโอกาสไปเที่ยวเบตงเพื่อ
ดูตลาดมีดกรีดยางมาเลย์ที่เบตงและเอามีดไปส่งที่ธารโตซึ่งเป็นทาง
ผ่าน และจะได้คุยกันเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ของมีดกรีดยางทั้งขอ
ไทยและมีดของมาเลย์แท้ๆ (ไม่ใช่มีดสองสัญชาติ) ผมเพิ่งมาทราบ
ภายหลังว่าที่หมู่บ้านที่สั่งมีดผมไปใช้นั้นส่วนใหญ่จะชอบเล่นมีดกรีด
ยางกันมีดอะไรที่ว่าดีจะซื้อมาใช้เกือบทุกยี่ห้อไม่เกี่ยงเรื่องราคา 
ดังนั้นมีดที่คนในหมู่บ้านนี้ใช้กันจะเป็นมีดที่มีคุณภาพดีจริงๆ เท่านั้น
ถึงจะมาขายในหมู่บ้านนี้ได้



ภายหลังจากได้สอบถามเกี่ยวกับเส้นทางที่จะไปเบตง และความปลอ
ภัยในการเดินทางจากคนขับรถตู้ประจำทางสาย หาดใหญ่-เบตงแล้ว
 ได้รับคำแนะนำให้ใช้เส้นทางจากหาดใหญ่ไป อ.สะบ้าย้อยผ่านอ.ยะหา
ไปสุดทางที่สามแยกบันนังสตาร์ แล้วเลี้ยวขวาผ่าน อ.ธารโตไปสุดทาง
ที่ อ.เบตง จะเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยซึ่งคนขับรถตู้เรียกเส้นทางนี้ว่า
 “สายล่าง” ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งจะเรียกว่า “สายบน” จากหาดใหญ่จะ
ไปทาง อ.เทพา,อ.โคกโพธิ์,อ.เมืองยะลาและมาบรรจบกับเส้นทาง
 “สายล่าง” ที่สามแยกบันนังสตาร์เหมือนกัน คนขับรถตู้ยังเล่าให้ฟังถึง
สาเหตุที่เส้นทาง “สายล่าง” ปลอดภัยกว่า “สายบน” ก็เนื่องมาจากเขต
แดนทางด้านล่างจาก อ.เมืองยะลาลงมาทาง อ.เบตงนั้นเป็นเขตปก
ครองของคนจีน ทำให้ผู้ปฏิบัติการฝ่ายมุสลิมหัวรุนแรงไม่ค่อยกล้าเข้า
มาทำอะไรมากนักไม่เหมือนทางด้านบน อ.เมืองยะลาขึ้นไปทาง 
ปัตตานีซึ่งเป็นอีกเขตปกครองหนึ่งที่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นอยู่บ่อย
ครั้งกว่าทางด้านล่าง



เมื่อได้ข้อมูลรายละเอียดเส้นทางและความมั่นใจในความปลอดภัยแล้ว
ก็ออกเดินทางทันที คนขับรถตู้ยังสั่งเสีย (ไม่ใช่นะต้องใช้คำว่ากำชับถึง
จะถูก) มาอีกว่าแม้เส้นทางนี้จะปลอดภัยแต่ให้เดินทางกลางวันเท่านั้น
ห้ามเดินทางตอนเย็นหรือกลางคืนเด็ดขาด เพราะแม้แต่คนขับรถตู้เอง
ที่ขับผ่านเส้นทางนี้อยู่ทุกวันยังพูดว่า “ผ้มเองก็ไม่ห้าญไปกลางคืนครับ”
 เพราะมันไม่ปลอดภัยในทุกเส้นทางสำหรับการเดินทางกลางคืนที่นั่น




เดินทางออกจากหาดใหญ่แต่เช้าแวะเติมน้ำมันและแก๊สเต็มถัง  ผ่าน
บ้านพรุ,ทุ่งลุง,คลองแงะ เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.นาทวี มาไม่กี่กิโลก็เจอ
กับด่านตรวจด่านแรก ตรวจรถทุกๆ คันที่ผ่านทั้งไปและกลับ หลังจาก
ด่านนี้แล้วก็ไม่ค่อยได้เจอด่านอีกจนเดินทางเข้าสู่ อ.ยะหา ของจ.ยะลา
สิ่งที่เห็นแปลกตาคือ ด่านตรวจที่มีเกือบทุกระยะ 1-2 กิโลเมตร แต่
ทุกๆ ด่านไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ (ผมคิดว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดตอน
กลางคืนนะ) และมีด่านแบบนี้ตลอดเส้นทางจาก อ.ยะหาถึงสามแยก
อ.บันนังสตาร์ รถที่ใช้เส้นทางมีน้อยมาก นานๆ จึงจะมีรถสวนมาซักคัน


เมื่อถึงสามแยก อ.บันนังสตาร์เลี้ยวขวาไป อ.ธารโตขับรถไปประมาณ
 4-5 กิโลเมตร เห็นทหารเดินลาดตระเวนสองข้างถนน ก็เลยยกกล้อง
ขึ้นมาถ่ายรูปจากในรถพยายามขับช้าๆ เพื่อให้ได้ภาพชัดเจน ทหารที่
เดินลาดตระเวนอยู่ก็มองเข้ามาในรถ ซึ่งน่าจะมองไม่เห็นเพราะฟิล์ม
ดำแต่คงสงสัยว่าทำไมขับรถช้า


คนนี้มองจ้องมาในรถเกือบซวยแล้ว
             ผมมาทราบภายหลังว่าเค้าห้ามถ่ายรูปทหารเพราะกลัวจะเป็น
การสอดแนมของพวกผู้ก่อการ เพื่อดูการเคลื่อนไหวและหน้าตาของ
ฝ่ายทหารแล้วนำไปใช้ในการก่อการ หลังจากนั้นผมแวะลงไปที่ไหนก็
ไม่กล้าใช้กล้องถ่ายรูปถ่ายไปเรื่อยอีก นอกจากในพื้นที่ อ.เบตง ซึ่งน่า
จะปลอดภัยเพราะเป็นอีกเขตปกครองหนึ่ง สังเกตุได้จากเส้นทางจาก 
อ.บันนังสตาร์ ผ่าน อ.ธารโตไปสู่ อ.เบตง จะมีด่านตรวจน้อยกว่าเส้น
ทางจาก อ.ยะหามาสามแยก อ.บันนังสตาร์


ภาพทหารเดินลาดตระเวน 2 ข้างทาง
 ขับรถผ่าน อ.ธารโตมาถึงบ้านแม่หวาด จุดหมายแรกที่ต้องมาส่งมีด
กรีดยางเลยถือโอกาสเปิด mini workshop 


เจ้าของบ้าน


เทคนิคการสะบัดมีดกับหนังและยาขัด
คุยกันเรื่องเหล็กเรื่องมีดกรีดยางและเทคนิควิธีการลับมีดให้คมดุจมีดโกน
รวมทั้งสาธิตวิธีการลับมีดทางลัดภายใน 20 นาที (จับเวลา
โดยเจ้าของบ้าน) ภายหลังจากลับมีดเสร็จก็โดนท้าทายต่อให้อยู่
ลองกรีดยางดูว่าลับมีดได้ดีแล้วจะกรีดยางได้ดีด้วยหรือเปล่า  ก็เลย
ต้องขอตัวไว้เป็นโอกาสหน้าจะมาลองกรีดยางที่เบตงดูบ้าง 


แนะนำวิธีการลับมีดทางลัด
จากคำบอกเล่าของคนที่บ้านแม่หวาดส่วนใหญ่จะปลูกยางพันธุ์ 600 
กันเป็นส่วนมาก น้ำยางที่นี่ออกเต็มจอกเกือบทุกต้นและออกดีแบบนี้
ตลอดปี เสียดายเนื่องจากเวลาจำกัดเลยไม่ได้เข้าไปดูสวนยางและ
วิธีการทำแผ่นยางยาว 2-3 เมตร น้ำหนักแผ่นละ 5 กิโล เพราะต้อง
เดินทางต่อไปเบตง  ก่อนที่จะค่ำเสียก่อน


เบตงเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขา




ถึงเบตงบ่ายแก่ๆ หลังจากเข้าที่พักก็เดินดูบรรยากาศตัวเมืองและตลาด
ในเบตง


ไก่เก้าชั่งตัวนี้หนัก 5 กิโล
ลูกไก่เบตง
เดินมาถึงร้านขายมีดกรีดยางและอุปกรณ์การเกษตรในตลาดเบตง


สองร้านนี้ขายมีดกรีดยางของไทยและมาเลย์ แต่ส่วนมากจะเป็นมีดไทย


ร้านนี้เป็นร้านที่ได้รับคำแนะนำจากคนที่แม่หวาดว่าขายมีดมาเลย์มาก
ที่สุดในเบตง  ดูข้างนอกไม่น่าจะขายมีดกรีดยางเลย

                                
พอเข้าไปข้างใน โหเยอะจริงๆ ขายมีดมาเลย์มากกว่ามีดไทย
แต่ก็มีอยู่ 3-4 ยี่ห้อเท่านั้น



มีดมาเลย์เกรดธรรมดา
มีดเกรดพรีเมี่ยมเหล็กกล้าเยอรมัน เหมือนที่เมืองไทยเลย
มีด BIDOR กับมีด JAYA MATA (มีดตราตามาเลย์) ซึ่งมีดทั้งสองยี่ห้อนี้
จะเป็นมีดที่ขายดี และมีดตราตานั้นปีนึงจะได้เข้ามาขายสักครั้งเพราะสั่ง
ยากมาก เป็นมีดที่ขายดีในมาเลย์ ตามคำบอกเล่าของคนขาย 
และสำหรับมีด BIDOR นั้น จะมี BIDOR อยู่ 2 ยี่ห้ออีกเช่นกัน เนื่องจาก
คนงานจากโรงงานเดิมเมื่อมาทำมีดได้สักระยะหนึ่งแล้ว ก็ออกไปทำมีด
ขายในยี่ห้อของตัวเอง แต่ก็ยังใช้ชื่อ BIDOR อยู่ต่างกันที่โลโก้เท่านั้นเอง
คงเหมือนกับมีดจากหมู่บ้านอรัญญิกของบ้านเรานะ 


มีด BIDOR ทั้ง 2 ยี่ห้อ


ดูกันชัดๆ ความเหมือนในความต่าง




น้ำหนักมีด BIDOR เตรียมไว้ทำการทดสอบ 


น้ำหนักของมีด ตราตา JAYA MATA
ส่วนหินลับมีดของมาเลย์นั้นจะมีอยู่ 2 ยี่ห้อคือตราจักรยาน และตราตา 
(ยี่ห้อเดียวกับมีดกรีดยาง)






ซื้อมาไว้ทดสอบเหมือนกันว่าอันไหนดีกว่ากัน
เดี๋ยวตอนหน้าพาไปดูสวนยางนะครับ

2 ความคิดเห็น:

Tan กล่าวว่า...

คุณขายแบรนด์ CAPMERAK หินลับมีด มีดกรีดยาง ?

Unknown กล่าวว่า...

สนใจซื้อมีดยางมีเบอร์ติดต่อไมค่ะ